ความสุขทางใจของคนเรานั้นมีความแตกต่างกันในแต่ละด้าน แต่ละอย่าง ซึ่งอีกหนึ่งอย่างนั้นก็คือสัตว์เลี้ยง บางคนชอบหมา บางคนชอบแมว แต่บางคนก็ชอบกิ้งก่า และในวันนี้ thedognarak.com จะพามาแนะนำกิ้งก่าทะเลทราย “Bearded Dragon” สัตว์เลี้ยงสุดเท่ห์เก๋ไม่เหมือนใคร จะเท่ห์ จะเก๋ จะไม่เหมือนใครกันแค่ไหน ไปชมกันเลยครับ
“Bearded Dragon” สัตว์เลี้ยงสุดเท่ห์เก๋ไม่เหมือนใคร
Bearded Dragon (มังกรเครา หรือ กิ้งก่าทะเลทราย) ซึ่งตามปกติกรรมพันธุ์ของมันถูกก่อเกิดมาในทะเลทรายอย่างแท้จริง ซึ่งมันถูกค้นพบกันใน ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับกับเนินทรายเตี้ย ๆ รวมไปถึงทุ่งทะเลทรายที่มีหินหรือต้นไม้แห้งกรัง อย่างในประเทศออสเตรเลีย แถบรัฐควีนส์แลนด์, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี, นิวเซาท์เวลส์ และวิกตอเรีย
โดยลักษณะนิสัยของมันนั้นจะอาศัยอยู่บนพื้นทรายมากกว่าจะอยู่บนต้นไม้ ก้อนหินอย่างเช่นกิ้งก่าของไทย อาหารที่มันกินก็คือแมลง โดยส่วนมากก็หากินอยู่บนพื้น นอกจากแมลงแล้วมันยังกินพืชได้อีกด้วย ซึ่งมันจำเป็นเพราะในทะเลทรายนั้นค่อนข้างหาอาหารยาก ร่างกายของมันจึงปรับตัวให้สามารถย่อยอาหารจำพวกพืชได้ มันเป็นสัตว์เลื้อยคลาน มีลำตัวสำน้ำตาล แดง หรืออื่นๆ แล้วแต่ตัว มีหนามเป็นแท่งเล็กๆ ขึ้นกันตามผิวหนัง

ซึ่งในปัจจุบัน Bearded Dragon ได้ถูกนำเข้ามาเพาะเลี้ยง และจำหน่ายในประเทศไทยกันเป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำรายได้อย่างงามให้กับเหล่าผู้นำเข้ามาทำฟาร์มเลี้ยง จำหน่ายมัน มันมีราคาค่าตัวมากถึง 15,000-25,000 ต่อตัวกันเลยทีเดียว ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์แข็งแรก ความสวยงามของลำตัวและสีนั่นเอง
ซึ่งที่ถูกนำมาเลี้ยงกันในปัจจุบันนี้ส่วนมากมันจะถูกนำไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่สัตว์ที่นิยมนำไปประกอบอาหาร และอีกอย่างคือนิยมนำไปเลี้ยงเพื่อใส่ตู้โชว์ในบ้าน แล้วตกแต่งตู้ให้สวยงามเข้ากับเจ้ากิ้งก่าทะเลทราย ซึ่ง Bearded Dragon จะเติบโตได้โดยการลอกคราบ ในช่วงลอกคราบออกมา เขาจะมีสีลำตัวที่หม่น สีจางลงกว่าปกติ สำหรับผู้เลี้ยงเองนั้นสามารถช่วยลอกคราบของเขาได้โดยใช้มือดึงออกเบาๆ เพราะถ้าหากคราบของมันถูกลอกออกไม่หมดนั้นจะทำให้เกิดปัญหากับ Bearded Dragon ได้ เช่น เนื้อเยื่อในส่วนนั้นตาย เพราะถูกรัดจนไม่มีเลือดไปเลี้ยงในบริเวณนั้นได้

Bearded Dragon เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศ มันมีนิสัยที่เชื่อง นิ่ง เอื่อย แต่ก็มีความเร็วอยู่พอสมควร การให้อาหารนั้นสามารถให้ได้ทั้งหนอน หรือแมลง เช่น จิ้งหรีด ตั๊กแตน รวมไปถึงผักใบอ่อน ก็สามารถใช้เลี้ยงได้ การเลี้ยง Bearded Dragon ต้องให้พื้นที่เขามากพอสมควรที่จะเดินเล่นได้ มีหินหรือกิ่งไม้แห้ง ไว้ให้เขาได้นอนหรือซ่อนตัว รวมไปถึงการใช้ลอกคราบ
Bearded Dragon ต้องการกินน้ำเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีที่ใส่น้ำดื่มไว้ให้เขา เช็คดูและเติมบ่อยๆ นอกเหนือจากนั้นตามธรรมชาติของเขาเป็นกิ้งก่าที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย ร่างกายของเขาจึงต้องได้รับวิตามินจากแสงแดด รวมไปถึงรังสี UVA และ UVB และอีกอย่างเขาเป็นสัตว์ขี้หนาว ควรจัดมุมให้เขาอยู่อย่างอบอุ่น หรือไม่ก็ต้องมีหลอดไฟทังสเตนใส่ไว้ในตู้ เพื่อคอยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของเขาเอง
การที่จะเลี้ยง Bearded Dragon จะต้องปรับทัศนคติกันให้ดีก่อน ใช่ว่าเห็นเป็นสัตว์เลี้ยงที่แปลกแล้วอยากนำมาเลี้ยง เพราะควรศึกษาเรียนรู้ หาข้อมูลเกี่ยวกับ Bearded Dragon ให้ดีก่อน เพราะราคานั้นไม่ใช่เบาๆ เดี๋ยวถ้าหากเขาเป็นอะไรไปจะเสียดายเปล่าๆ

ซึ่ง Bearded Dragon จะมีวัยเจริญพันธุ์ที่พร้อมจะผสมพันธุ์อยู่ที่อายุ 8-12 เดือน หลังจากผสมพันธุ์ ตัวเมียจะมีลักษณะนิสัยเปลี่ยนไป ตัวเมียตั้งท้องนานเกือบหนึ่งเดือน หลังจากนั้นก็จะทำการวางไข่ ซึ่งในการวางไข่นั้นตัวเมียจะทำการขุดทรายเพื่อวางไข่หลังจากไข่เสร็จก็จะทำการกลบ แล้วปล่อยให้ไข่ได้เติบโตเองตามธรรมชาติ
ซึ่งลูก Bearded Dragon ที่เติบโตขึ้นมาจากไข่และถูกฟักออกมา จะไม่มีสังคม เพราะมันเป็นสัตว์ที่สันโดษ ไม่รวมฝูง แล้วจะพบกันก็เมื่อช่วงฤดูผสมพันธุ์เพียงเท่านั้น

ข้อควรระวังในการเลี้ยง Bearded Dragon คืออย่าให้อาหารที่มีไขมันเยอะ เพราะมันค่อนข้างมีผลส่งให้ระบบย่อยอาหารของมันมีปัญหา ควรให้กินอาหารจำพวกผักอยู่บ่อยครั้งเพื่อเสริมวิตามินให้ร่างกาย เช่น กวางตุ้ง ผักสลัด แครอท ฟักทองขูด เพียงแค่นี้ก็ทำให้ Bearded Dragon ของคุณสมบูรณ์แข็งแรงได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ “Bearded Dragon” สัตว์เลี้ยงสุดเท่ห์เก๋ไม่เหมือนใคร สำหรับใครที่สนใจจะนำมาเลี้ยงก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมันให้มากก่อนนะครับ
แนะนำบทความน่าสนใจ
จะมาแนะนำ หนังสือแนวทางธุรกิจ 3 เล่มที่ควรอ่าน เป็นหนังสือที่บอกเคล็ดลับความสำเร็จในการทำธุรกิจ บอกแนวทางเพื่อให้เราสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ ช่วยให้เราสามารถวางแผนธุรกิจของเราเองได้อย่างมีแนวทางที่ดี นักธุรกิจสตาร์อัพควรมีอ่าน ไปดูกันเลยว่ามีเล่มไหนบ้าง
