วันนี้ thedognarak.com จะพามาดูฉลามเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพชฌฆาตในท้องทะเล สามารถทำลายล้างไม่ว่าจะเป็นปลาเล็ก หรือปลาใหญ่วันนี้เราจะมานำเสนอฉลามอีกสายพันธุ์หนึ่งคือ คุกกี้ คัดเตอร์ ถือได้ว่าเป็นฉลามขนาดเล็ก แต่ซ่อนพิษร้ายมหาศาลไม่น้อยเลย เรียกได้ว่าสามารถทำลายแม้แต่เรือดำน้ำมาแล้ว ส่วนจะมีรายละเอียดอื่น ๆ อย่างไรบ้างตามไปดูเลยที่ “คุกกี้ คัดเตอร์” ฉลามจิ๋วสยองซ่อนคม กันเลยนะครับ
“คุกกี้ คัดเตอร์” ฉลามจิ๋วสยองซ่อนคม
ฉลามคุกกี้คัดเตอร์ (Isistius Brasiliensis) เป็นฉลามสายพันธุ์ขนาดเล็ก ขนาดตัวเท่าแมวบ้าน มีนิสัยดุร้าย ชอบโจมตีสัตว์หรือสิ่งของที่ใหญ่กว่าตัวมัน โดยที่จะทิ้งร่องรอยของเหยี่อให้เป็นรูปวงกลมเหมือนคุกกี้ จึงเป็นที่มาของชื่อนี้นั่นเอง มีการค้นพบครั้งแรกในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยนักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส จนถึงศตวรรษที่ 1970 นักวิจัยได้มีการบันทึกเกี่ยวกับบาดแผลลึกทรงกลมปริศนาบนสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลทุกประเภทตั้งปลาเล็กไปถึงโลมา ไม่เว้นแต่ฉลามขาวซึ่งมีขนาดที่ใหญ่กว่า

ต่อมาในปี 1971 เอเวอเร็ต โจนส์ ได้ค้นพบชิ้นเนื้อทรงกลมขนาดเล็ก ๆ ที่อยู่ในท้องของเจ้าฉลามคุกกี้คัดเตอร์ ซึ่งทางทีมนักวิทยาศาสตร์ได้มีความเห็นว่า เจ้าฉลามจิ๋วนี้อันตรายแค่ไหน ที่สามารถจู่โจมบรรดาเหยื่อในมหาสมุทรได้อย่างไม่เกรงกลัวเลยแม่แต่น้อย ก่อนที่จะมีการค้นพบ ผู้คนได้เชื่อกันว่าบาดแผลทรงกลมแปลก ๆ บนร่างกายสัตว์ทะเลส่วนใหญ่มักจะเกิดจากเหาปรสิตทั้งนั้น การติดเชื้อจากปลาแลมป์เพรย์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตปริศนาบางอย่าง
ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง แล้วพบว่าปากและฟันของเจ้าฉลามนี้นั้นมีฟันที่แหลมคมราวกับมีดคัดเตอร์ และซี่ที่คล้ายเลื่อยไม้ ทำให้เข้าใจว่าการกัดของเจ้าฉลามจิ๋วนั้นมีพิษสงร้ายแค่ไหน เห็นได้ชัดเลยว่าลิ้นและริมฝีปากขนาดใหญ่ของมันจะดูดกับผิวเรียบ ๆ ของเหยื่อ จากนั้นจึงกัดจมลงแล้วบิดเอาเนื้อชิ้นใหญ่จากเหยื่อออกมา และทิ้งร่องรอยเป็นรูกลมลึก ซึ่งมีการบันทึกสถิติว่า บาดแผลที่ใหญ่ที่สุดคือ ขนาดกว้าง 5 ซม. ลึก 7 ซม.
ซึ่งฉลากคุกกี้คัดเตอร์นั้นในเวลากลางวันอาศัยอยู่ที่ระดับมหาสมุทรสูงสุด 3,500 เมตร และมักจะโผล่บนเหนือผิวน้ำในเวลากลางคืน เนื่องจากเหยื่อจะไม่ค่อยล้ำรุกพื้นที่ มันก็จะเปล่งแสงใต้หน้าท้อง มีแถบสีเข้มรอบคอซึ่งคล้ายกับเงาของปลาที่เคลื่อนไหวเมื่อมองจากด้านล่าง ซึ่งแสงสีเขียวของพวกมันสามารถเข้ากับแสงของดวงจันทร์ในเวลากลางคืน

ซึ่งวิธีการล่าเหยื่อของมัน หลายคนจะยังไม่รู้จักกันดีเท่าไหร่ ซึ่งนี่เป็นเพียงการสันนิษฐานจากทีมนักชีววิทยาทางทะเลเท่านั้น แต่สิ่งที่แน่นอนเลยคือฉลามตัวเท่าแมวซึ่งไม่ใช่เรื่องตลกเลย เนื่องจากมีการพบว่า บาดแผลคล้ายปล่องภูเขาไฟเกิดจากการโจมตีของฉลามคุกกี้คัดเตอร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งพบในวาฬและวาฬเพชฌฆาตด้วย, ฉลามทั้ง 48 สายพันธุ์, ปลาฉลามหลายสายพันธุ์, แมวน้ำ, ปลากระเบน และปลากระทูน่า
ซึ่งในปี 1970 เจ้าฉลามคุกกี้คัดเตอร์ ได้กัดชิ้นส่วนที่อ่อนนุ่มของเรือดำนำ เช่น สายเคเบิลและโดมโซนาร์ที่ทำจากวัสดุยาง ทำให้บางครั้งต้องกลับไปที่ฐานเพื่อทำการซ่อมแซม หรือมากไปกว่านั้นมันได้กัดชิ้นส่วนที่สำคัญของเรือดำน้ำอย่างรุนแรง จนทำให้อุปกรณ์ระบบโซนาร์รั่วไหลออกมาเลยก็มี ซึ่งในที่นี้รวมถึงคนที่ออกผจญภัยทางทะเลในตอนกลางคืนอีกด้วย
และยังพบว่าในปี 2009 ชายคนหนึ่งได้พยายามว่ายน้ำด้วยระยะทาง 30 ไมล์ ระหว่างเกาะฮาวายและเกาะเมกาวี เนื่องจากเขาได้ถูกกัดบริเวณหน้าอก ต่อมา ปี 2019 นักว่ายน้ำแข่งขัน Oceans Seven ก็ถูกกัดเช่นกัน โดยมีแผลที่หน้าท้อง, ขา และหัวใจ และยังมีอีกหลายรายที่ต้องสังเวยให้กับเจ้าฉลามจิ๋วสายพันธุ์นี้

หลายคนคงได้เห็นเรื่องราวการกำเนิด และพิษสงที่มหาศาลขอลเจ้าฉลามคุกกี้คัดเตอร์กันไปแล้วนะครับ พอได้ฟังวิธีการจู่โจมของมันแล้ว แค่คิดก็สยองแล้ว ไม่อยากเห็นของจริงเลย ดังนั้นหากไม่อยากสังเวยจากเจ้าฉลามจิ๋วสยอง ควรตรวจสอบว่าห่างจากน้ำลึกที่มีฉลามคุกกี้คัดเตอร์มากน้อยแค่ไหน
แนะนำ 5 ซูเปอร์มาร์เกตญี่ปุ่นในไทย ของดีจากแดนปลาดิบ ไปช้อปและถ่ายรูปได้
สถานการณ์โควิดในปัจจุบันนี้เป็นสถานการณ์ที่ทุกคนน่าจะรู้ดีว่ามันเป็นเช่นไร ซึ่งมันเป็นสถานการณ์ที่คนทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ และช่วงที่โควิด 19 กำลังระบาดไปทั่วโลกแบบนี้ คงไม่ต้องพูดถึงการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สำหรับใครที่คันมืออยากช้อปปิ้งอยากเที่ยวดูของ อยากกินอยากสรรหาวัตถุดิบญี่ปุ่นอร่อย ๆ มีพิกัด 5 ซูเปอร์มาร์เกตญี่ปุ่นในไทย ของดีจากแดนปลาดิบ ไปช้อปและถ่ายรูปได้ มาฝาก แต่ละที่คุณจะได้เจอกับเนื้อปลาดิบ ปลาไหล ราเมน ผัก และผลไม้สด ๆ ซื้อเก็บไว้ตุนช่วงกักตัวอยู่บ้านนี้กัน
